พิธีฮัจญ์ทีเมกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย

พิธีฮัจญ์ทีเมกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย

การประกอบพิธีฮัจญ์ คือการเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่นครมักกะห์  อันเป็นเมืองที่ “ท่านศาสดามุฮัมมัด” เริ่มประกาศศาสนาอิสลาม ในเดือนซุลฮิจญะห์ ตามวันเวลา และสถานที่ต่างๆ ที่ทางศาสนาอิสลามกำหนดไว้ ซึ่งศาสนกิจข้อนี้เป็นหน้าที่สำหรับมุสลิมทั้งชายและหญิง ทุกคนที่มีความสามารถในด้านร่างกาย ทรัพย์สิน และการเดินทาง ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตควรจะต้องเดินทางไป  ผู้ที่เลื่อมใสหลักศรัทธาของศาสนาอิสลามและปฏิบัติตามหลักห้าประการของศาสนานี้แล้ว  ย่อมได้ชื่อว่า “มุสลิม” แปลว่า ผู้สยบตนหรือผู้นอบน้อมตน หลักห้าประการที่กล่าวนี้ประกอบด้วย ปฏิญาณ, นมัสการ, ศีล, ทาน และบำเพ็ญพิธีฮัจญ์

การประกอบพิธีฮัจญ์ ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างมิตรภาพระหว่างมุสลิมทั่วโลก โดยการที่คนต่างเชื้อชาติ ต่างถิ่นฐาน ต่างวัฒนธรรม ต่างมารวมตัวกัน และใช้ชีวิตในช่วงเวลาสั้นๆ ร่วมกันปฏิบัติศาสนกิจโดยมีเป้าหมายเดียวกัน นั้นก็คือ อัลลอฮ์ (ซุบฮาฯ)

           ซึ่งในช่วงฮัจญ์ ชาวมุสลิมทั่วโลกจะเดินทางเข้าสู่ซาอุดีอาระเบีย โดยก่อนอื่นจะมีการทำอิหฺรอม  นั่นคือการตั้งใจว่าจะทำพิธีฮัจญ์ ก่อนการเข้าไปในแผ่นดินหะรอม แผ่นดินต้องห้าม โดยจะปฏิบัติตามกฎของฮัจญ์ อาทิ การไม่สมสู่ การไม่ล่าสัตว์ในแผ่นดินหะรอม การไม่ตัดเล็บหรือผม การไม่เสริมสวยหรือใช้น้ำหอม ผู้ชายจะเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย มาสวมผ้าเพียงสองผืน แล้วต่างก็จะมาชุมนุมกันที่ทุ่งอะร็อฟะห์ ในตอนเช้าตรู่ของวันที่เก้าของเดือนซุลฮิจญะห์

           พอตกค่ำ ซึ่งตามปฏิทินฮิจญ์เราะห์ จะเป็นคืนที่สิบ เหล่านักแสวงบุญจะเดินทางผ่านทุ่งมุซดะลิฟะห์ เพื่อพักชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่ทุ่งมีนาก่อนเที่ยงของวันต่อไป

           ส่วนชาวมุสลิมทั่วโลกที่ไม่ได้ไปประกอบพิธีฮัจญ์ ก็จะเฉลิมฉลองทำบุญเลี้ยงอาหารที่บ้าน เรียกวันนี้ว่า วันอีดิลอัฎฮา โดยมีการเชือดสัตว์ให้ผู้คนรับประทานในยามดุฮา คือยามสายหลังตะวันขึ้น แต่ก่อนเที่ยง หรือชาวไทยเชื้อสายมลายูในห้าจังหวัดภาคใต้เรียกว่าวันรายอรายาฮาญี ซึ่งแปลเป็นไทยตามตรงก็คือวันใหญ่นั่นเอง

   นักแสวงบุญจะพักอยู่ที่ทุ่งมีนา เป็นเวลาสามวัน เพื่อขอพรและบำเพ็ญตนตามพิธีฮัจญ์ หลังจากนั้นจึงเดินทางเข้านครมักกะห์ เพื่อฏอวาฟ เวียนรอบ กะอฺบะฮ์ หรือที่เรียกว่า บัยตุลลอห์ อันเป็นเสมือนเสาหลักของชุมทิศ ซึ่งตั้งอยู่ในมัสยิดฮะรอม มัสยิดต้องห้าม หลังจากนั้นผู้แสวงบุญก็จะเดินจากเนินเขาศอฟา สู่เนินเขามัรวะห์ ซึ่งมีระยะทาง 450 เมตร ไปมาจนครบเจ็ดเที่ยว ระหว่างที่เดินก็จะกล่าวคำขอพรและคำวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า เมื่อเสร็จพิธีก็จะมีการขริบผมหรือโกนหัว แล้วผู้แสวงบุญก็จะหลุดพ้นจากภาวะอิฮรอมในที่สุดนั่นเอง…วาอาลัยกุมมุสลาม