“มหาเธร์”เล็งยกเครื่องการศึกษา-ลดมุ่งเน้นศาสนาอิสลาม

ผู้นำมาเลเซีย ลั่นปฏิรูปหลักสูตรครั้งใหญ่ ชี้เน้นหนักกับศึกษาศาสนาอิสลามมากเกินไป แทนที่จะเป็นวิชาหลัก

นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด กล่าวปาฐกถาในงานดินเนอร์ประจำปีของสมาคมศิษย์เก่าวิทยาลัยสุลต่าน อับดุล ฮาหมิด (เอสเอเอชซี) เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยพูดถึงระบบการศึกษาว่า  มีใครบางคนเปลี่ยนหลักสูตรการเรียนการสอน ทำให้ปัจจุบัน โรงเรียนส่วนกลาง ( national school ) กลายเป็นโรงเรียนสอนศาสนา

“พวกเขาศึกษาเกี่ยวกับศาสนาอิสลามมากเกินไป ไม่ได้ศึกษาหาความรู้อย่างอื่น ผลก็คือได้คนจบมาโดยขาดความรอบรู้ในวิชามีประโยชน์ในการหางานทำ แต่เป็นอุลามะ (นักการศาสนา)ที่ดีมาก” พร้อมชี้ถึงผลตามมาเมื่อระบบการศึกษาปัจจุบันผลิตนักการศาสนาอิสลามออกมามากเกินไป  ว่าพวกเขาเห็นต่างขัดแย้งกันเสมอ นำพาผู้เลื่อมใสตนเองไปในทางที่ผิด และทะเลาะเบาะแว้งกันเอง

ระบบโรงเรียนประถมของมาเลเซีย แบ่งเป็นโรงเรียนส่วนกลาง ที่ชาวมาเลย์มุสลิมส่วนใหญ่เข้าเรียน ส่วนบุตรหลานชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนและอินเดีย เข้าโรงเรียนภาษาจีนและทมิฬ นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนอิสลามอีกหลายร้อยแห่ง

เพื่อแก้ปัญหาการมุ่งเน้นศาสนามากเกินไป ดร.มหาเธร์ กล่าวว่า รัฐบาลจะแก้ไขตารางสอนและหลักสูตรในโรงเรียนส่วนกลางใหม่ นักเรียนจะยังคงเรียนศาสนาต่อไป แต่ไม่ใช่ทุกคาบในหนึ่งวัน อาจจะหนึ่งหรือสองคาบเท่านั้นต่อสัปดาห์ หันมาสอนทุกวิชาที่มีความสำคัญ เป็นประโยชน์แก่นักเรียนเมื่อเติบโต ให้เป็นคนมีความคิดความอ่านเป็นอิสระ

ผู้นำมาเลเซีย กล่าวว่า หากต้องการความก้าวหน้า ชาวมาเลเซียจะต้องได้รับการศึกษาที่ดี ไม่ใช่แค่ท่องจำคัมภีร์อัลกุระอานเท่านั้น แต่ยังต้องเก่งภาษาอื่น ขณะนี้ มาเลเซียอยู่ในขั้นตอนยากลำบาก จำเป็นต้องพัฒนา ต้องการคนมีความรู้ความสามารถ คนที่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และยืนหยัดเพื่อประเทศ เราต้องขยันมากเพื่อก้าวให้ทันผู้อื่น

นอกจากนี้ ดร.มหาธีร์ ยังเรียกร้องชาวมาเลเซีย ให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษ เพราะเป็นภาษาสากล เป็นภาษาแห่งความรู้ หากต้องการความรู้ ต้องรู้ภาษาอังกฤษ  และย้ำว่าการเรียนภาษาอังกฤษ ไม่ได้ทำลายอัตลักษณ์ชาวมาเลเซียหรือภาษามาเลย์เลย

มีรายงานว่า ดร.มหาเธร์สั่งข้าราชการระดับสูงทุกคน ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการบรรยายสรุปงานให้เขาฟัง

ดร.มหาธีร์ ดำรงตำแหน่งประธานสมาคมศิษย์เก่าเอสเอเอชซีตลอดชีพ สถาบันแห่งนี้ โมฮัมหมัด อิสคันการ์ บิดาของเขา เป็นครูใหญ่คนแรก สมัยยังเป็นโรงเรียนภาษาอังกฤษของรัฐบาล

แผนปฏิรูปการศึกษาของดร.มหาธีร์  วัย 93 ปี อาจจะเป็นประเด็นถกเถียง ในห้วงเวลาที่กระแสอนุรักษ์นิยมในหมู่ชาวมาเลย์มุสลิมมาแรง นอกจากนี้ รัฐบาลพันธมิตร ปากาตัน ฮารัปปัน ของดร.มหาเธร์เองก็ได้คะแนนจากชาวมาเลย์ราว 30% เท่านั้นในศึกเลือกตั้งเมื่อพฤษภาคม

ความสนใจที่จะเข้ามาปฏิรูปการศึกษาของดร.มหาเธร์ ประจักษ์ชัด เมื่อตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง เขาแสดงความประสงค์รับตำแหน่งรัฐมนตรีศึกษา  โดยพูดติดตลกในขณะนั้นว่า “ผมรับตำแหน่งนี้เองเพราะคนจำนวนมากไม่มีการศึกษา ระบบที่เรามีตอนนี้ ล้าหลัง” แต่ต่อมาต้องล้มเลิกความตั้งใจ เพราะขัดกับคำสัญญาของพันธมิตรพรรครัฐบาลที่ไม่ต้องการให้นายกฯควบสองตำแหน่ง เพื่อป้องกันอำนาจกระจุกตัว

ที่มา: คมชัดลึก