รู้หรือไม การแต่งงานในศาสนาอิสลามเป็นอย่างไรบ้าง

รู้หรือไม การแต่งงานในศาสนาอิสลามเป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับบุคคลภายนอกที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามนั้นก็คงมองภาพไม่ออกว่า การแต่งงานของบุคคลที่นับถือศาสนาอิสลามนั้นเป็นอย่างไร วันนี้เรามารู้ไปพร้อมกันกับบทความที่ท่านจะได้อ่าน เพราะเป็นประโยนช์และความรู้ศาสนาอิสลามนั้นจะมีด้วยกัน 3 ขั้นตอนนั่นเอง คือ การสู่ขอ การหมั้ง และถึงจะเป็นขั้นตอนของการแต่งงานนั่นเอง เพราะการแต่งงานนั้นถือได้ว่าเป็นประเพณีที่มีความหมายและมีความสำคัญมากกับคู่บ่าวสาวที่ได้ถูกบัญญัติไว้ตามหลักศาสนา นอกจากนั้นในพิธีแต่งงานก็ไม่นิยมจัดขึ้นในช่วงพิธีฮัจญ์

ขั้นตอนการแต่งงานตามหลักสำคัญของอิสลาม

  1. ขั้นการสู่ขอ ในอดีตการนั้นในส่วนของการสู่ขอเจ้าสาวนั้น ฝ่ายชายจะเป็นคนให้ญาติผู้ใหญ้ฝ่ายของตนที่เป็นผู้หญิง ไปสู่ขอเจ้าสาวกับพ่อและแม่ของฝ่ายหญิงนั่นเอง และเมื่อเมื่อได้รับการตกลงแล้วก็จะได้ออกมากำหนดในวันหมั้น ทั้งนี้ในการตอบตกลงของพ่อกับแม่ของฝ่ายหญิงนั้นจะไม่ขอความเห็นจากจากลูกของตนก่อน จนกระทั่งต่อมาในปัจจุบันนี้นั้นผู้ที่จะมาสู่ขอของฝ่ายชายนั้น ถ้าสู่ขอก็ต้องมีอะไรติดไม้ติดมืออย่างเช่น ขนมหรือ ผลไม้ไปฝากทางด้านของฝ่ายหญิงอีกด้วย และเมื่อได้ไปถึงบ้านฝ่ายหญิงแล้วก็จะพูดว่า “มีธุระ จะมาปรึกษาด้วย” จากนั้นจะถามว่าผู้หญิงที่จะมาสู่ขอนั้น “มีคู่หรือยัง” ถ้าหากฝ่ายหญิงตอบกลับไปว่า “ไม่มี” ก็พูดต่อว่าจะต้องการสู่ขอให้กับใคร ซึ่งฝ่ายหญิงจะยังไม่ตอบตกลงในตอนนั้นและจะขอเวลาปรึกษากันในญาติของตนก่อนราว ๆ 1 สัปดาห์ ในระหว่างนั้นฝ่ายหญิงจะส่งคนไปบอกฝ่ายชายในกรณีที่ตกลง แต่ถ้าไม่ตกลงนั้นก็จะปล่อยเงียบไปเอง เมื่อฝ่ายหญิงได้ตกลงแล้วนั้น ฝ่ายชายก็จะไปคุยในเรื่องของกำหนดการในวันแต่งงาน ค่าสินสอด ทองหมั้น และมะฮัรุ
  2. ขั้นตอนการหมั้น ในอดีตกาลเมื่อกำหนดถึงวันหมั้น ฝ่ายชายก็จะจัดขบวนเถ้าแก่ และขบวนขันหมากไปยังบ้านของฝ่ายหญิง ในส่วนของฤกษ์การแห่ขันหมากนั้นจะเป็นเวลาช่วงเย็นราว ๆ 16:00 – 17:00 น. ขันหมากนั้นจะประกอบด้วย พาน 3 คือพานหมากพลู พานข้าวเหนียวเหลือง และพานขนม แต่สำหรับคนที่มีฐานะก็อาจจะเพิ่มพานขนมเข้าไปอีกก็ได้ ในพานหมากพลูนั้นจะมีเงินและสินสอดใส่ไว้ใต้หมากพลู เรียกว่า ลาเปะซีเฆะ หรือเงินรองพลู ส่วนพานขนมจะมี ขนมดูปงปูตู ข้าวพองและขนมก้อน้ำตาล (ดูปงฮะลูวอคีแม) และขันหมากเหล่านี้จะห่อผ้าด้วยสีที่สวยงาม

เมื่อฝ่ายชายไปถึง เถ้าแก่ของฝ่ายชายจะพูดกล่าวขึ้นว่า “วันนี้..ชื่อเจ้าบ่าว…ได้เอาของมาหมั้น…ชื่อเจ้าสาว” เมื่อเถ้าแก่ของฝ่ายหญิงรับของหมั้น เถ้าแก่ชายจะถามต่อว่า “เงินหัวขันหมากนั้นเท่าไหร่” และเถ้าแก่หญิงก็จะตอบ จากนั้นก็จะเป็นการปรึกษากันถึงในวันแต่งงาน วันจัดงานเลี้ยง และก่อนที่ฝ่ายชายจะกลับนั้นฝ่ายหญิงจะนำกาเฮงแปลก๊ะ หรือกาเฮงปาเต๊ะลือป๊ะ ใส่พานที่ใส่หมากพลูมาหมั้น ส่วนพานข้าวเหนียวเหลืองและพานขนมนั้นจะให้ไว้ที่บ้านฝ่ายหญิง

3. ขั้นตอนพิธีการแต่งงาน ในสมัยก่อนพิธีการแต่งงานจะจัดหลังวันหมั้นแล้วไม่เกิน 2 สับดาห์ จะถือฤกษ์เวลา 16:00-17:00 น. ของวันใดวันหนึ่ง ฝ่ายของเจ้าบ่าวจะยกขั้นหมากไปสู่ขอยังบ้านเจ้าสาว ในขบวนขันหมากจะมีเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าบ่าว ญาติผู้ใหญ่ประมาณ 5- 6 คน ซึ่งครั้งนี้ไม่มีของอะไรที่จะต้องนำไป นอกจากเงินหัวขั้นหมาก ที่ใส่ไว้ในขันหมากทองเหลือง ห่อหุ้มด้วยผ้าเช็ดหน้าให้เจ้าบ่าวเป็นคนถือ และกล้วยพันธุ์ดี 2 – 3 หวีเพียงแค่นั้น ในวันแต่งนั้นบ้านเจ้าสาวต้องจัดเตรียมการต้อนรับเป็นอย่างดีโดยเชิญโต๊ะอิหม่ามเป็นประธานในพิธีการแต่งงาน และะผู้ทรงคุณธรรมอีก 1 คน เพื่อเป็นสักขีพยาน ผู้นั้นต้องเป็นผู้มีศีลสัตย์ เมื่อหัวขันหมากถึงบ้านเจ้าสาวแล้ว ฝ่ายเจ้าสาวจะต้อนรับ และเจ้าบ่าวก็จะส่งมอบเงินหัวขันหมากให้กับโต๊ะอิหม่าม จากนั้นก็เป็นการร่วมรับประทานอาหารกัน